1. ทนต่ออุณหภูมิสูง: แหวนโอริง FKM สามารถทนต่อช่วงอุณหภูมิที่กว้าง ตั้งแต่อุณหภูมิต่ำมากจนถึงอุณหภูมิสูง โดยไม่เสียคุณสมบัติในการซีลหรือแตกหักง่าย สามารถรองรับอุณหภูมิได้ถึง 200°C (392°F) และสูงกว่าหากใช้เกรดที่เหมาะสม
2. ความต้านทานทางเคมี: แหวนโอริง FKM มีความต้านทานทางเคมีที่ดีเยี่ยมต่อของเหลวหลายชนิด เช่น น้ำมัน เครื่องเชื้อเพลิง สารละลาย กรด และสารเคมีหลายประเภท ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีความกังวลเกี่ยวกับการสัมผัสสารเคมีที่รุนแรง
3. ความเข้ากันได้กับเชื้อเพลิง: แหวนโอริง FKM เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมการบิน โดยสามารถปิดผนึกระบบเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีการเสื่อมสภาพ
4. การยุบตัวจากการบีบอัดต่ำ: แหวนโอริง FKM มียุบตัวจากการบีบอัดต่ำ หมายความว่าสามารถคงรูปร่างเดิมและความสามารถในการปิดผนึกได้แม้หลังจากถูกบีบอัดเป็นเวลานานหรือสัมผัสกับแรงดันสูง
5. สมรรถนะการปิดผนึกยอดเยี่ยม: แหวนโอริง FKM มอบการปิดผนึกที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือ ป้องกันการรั่วไหลและรักษาความสมบูรณ์ของชิ้นส่วนที่ปิดผนึกไว้
6. ความต้านทานต่อสภาพอากาศและรังสี UV: แหวนโอริง FKM มีความต้านทานต่อสภาพอากาศ โอโซน และรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่ดี ทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานกลางแจ้งและการสัมผัสกับแสงแดด
7.อายุการใช้งานยาวนาน: เนื่องจากความทนทานและการต้านทานการเสื่อมสภาพ O-ring แบบ FKM มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ายางอีลาสโตเมอร์หลายชนิด ลดความจำเป็นในการเปลี่ยนและบำรุงรักษาบ่อยครั้ง
8.ต้านทานการฉีกขาดและการสึกหรอสูง: O-ring แบบ FKM ต้านทานการฉีกขาดและการสึกหรอได้ดี ทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่มีปัญหาเรื่องการสึกกร่อนทางกลและแรงเสียดทาน
9.ความหลากหลาย: O-ring แบบ FKM มีให้เลือกในหลายเกรดและสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของการใช้งานต่างๆ รวมถึงช่วงอุณหภูมิเฉพาะ การต้านทานสารเคมี และคุณสมบัติการดำเนินงานอื่นๆ
10.การปิดผนึกในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง: O-ring แบบ FKM ถูกใช้อย่างแพร่หลายในงานที่ต้องการความทนทาน เช่น อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมรถยนต์ น้ำมันและก๊าซ การแปรรูปเคมี และเครื่องจักรอุตสาหกรรม โดยที่การปิดผนึกอย่างเชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงเป็นสิ่งสำคัญ